Student, ABAC School of Music

เสฐพงษ์ เอวสุข

(

กัน

)

แนะนำตัวเอง

ชื่อจริงชื่อ นายเสฐพงษ์ เอวสุข ชื่อเล่นชื่อ กัน ครับ เกิดวันที่ 22 มีนาคม 2545 จบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย จาก โรงเรียน สตรีวิทยา 2 ในพระราชูปถัมภ์ครับ ผมมีความสนใจในด้านดนตรีตั้งแต่ยังเด็ก และเริ่มฝึกกลองเป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกในตอน ม.1 ต่อจากนั้นเมื่อผมเริ่มโตขึ้นมาในอีกระดับ ผมก็เริ่มศึกษาวิธีเล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่นต่อ เช่น กีตาร์ เบส กลอง เปียโน และการร้องเพลง โดยสาเหตุที่ผมมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนทักษะทางด้านดนตรีนั้นชัดเจนตั้งแต่เริ่มแรก นั่นก็คือ การได้ผลิตผลงานเพลงเป็นของตัวเองด้วยตัวเอง

ในปี 2562 ผมได้ก้าวขึ้นไปอีกระดับ โดยการเข้าแข่งขันรายการ The Rapper 2 และเริ่มมีผู้ติดตามมากขึ้นนับจากตอนนั้น

ทำไมมาเรียนที่คณะดนตรี เอแบค

ผมได้มีโอกาสมาเข้าค่าย Song Writer ของ คณะดนตรี เอแบค เมื่อตอนผมศึกษาอยู่ชั้น ม.4 ครับ ในตอนที่มาถึงที่ มหาลัย ครั้งแรก ผมรู้สึกประทับในความสวยงามของสถานที่มาก มันให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่ประเทศไทยครับ ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ผมตัดสินใจมาเรียนที่เอแบคครับ และในปัจจัยอื่น ๆ เช่น การได้ฝึกฝนภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ การได้เรียนธุรกิจซึ่งเป็นจุดแข็งของมหาลัย รวมถึง ความเป็นกันเองของคณะอาจารย์ในคณะที่ได้สัมผัสมาในตอนที่ผมได้มาอยู่ค่าย ทั้งหมดเป็นสาเหตุที่ผมเลือกมาเรียนที่คณะนี้ครับ

วิชาเรียนที่ชอบที่สุด

ในตอนนี้ รู้สึกมีความสุขในการได้เข้าเรียนคลาส Music Business ของ อาจารย์ปอ ที่สุดครับ เพราะทุกครั้งที่เข้าเรียน ผมมักจะได้ความรู้อย่างอื่นนอกเหนือจากในวิชาเรียนติดตัวมาด้วยเสมอ และจากที่ผมสังเกตจากการเข้าเรียนออนไลน์ในทุก ๆคลาส ผมสามารถบอกได้ว่า คลาส Music Business ของ อาจารย์ปอ เป็นคลาสที่มีปฏิสัมพันธ์กับนักศึกษามากที่สุด จึงมีการโต้ตอบและวิเคราะห์เนื้อหากันระหว่างอาจารย์กับนักศึกษาตลอดเวลา ซึ่งสามารถอุดช่องโหว่ของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ได้เป็นอย่างดี จึงเป็นเหตุผลที่ผมชอบวิชานี้ที่สุดครับ

ความยากของการเรียนทฤษฎีดนตรี

เนื่องจากในการเล่นดนตรีตลอดมาของผม เป็นการเล่นโดยใช้ สัญชาตญาน กับประสบการณ์ บวกกับความเคยชินของกล้ามเนื้อ ทั้งสิ้น ดังนั้น การที่ต้องมาเรียนรู้กรอบของมัน จึงเป็นเรื่องยากและง่ายในเวลาเดียวกัน สำหรับผม การเรียนทฤษฎีดนตรี เป็นเหมือนการเรียนภาษา และ คณิตศาสตร์ ในเวลาเดียวกัน เพราะมันมีการวางแบบแผนที่เป็นระบบเหมือนคณิตศาสตร์ และ มีการเรียบเรียงเพื่อการสื่อสาร เหมือนเป็นภาษาชนิดหนึ่ง ผมค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นในการเรียนวิชานี้ เพราะมันทำให้ผมได้รู้รากฐานของสิ่งที่ผมเล่นมาทั้งหมดในหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก

เพื่อนในคณะ

จากที่ได้รู้สึกกันมาในระดับหนึ่ง ผมเห็นได้ว่าเพื่อนๆทุกคนมีความถนัดที่แตกต่างกันออกไป โดยหากยังไม่นับทักษะทางด้านดนตรี ก็จะพบว่า บางคนถนัดการจดเรียบเรียงเนื้อหา บางคนถนัดวิชาธุรกิจ หรือบางคนก็ชำนาญภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก ความน่าประทับใจที่ผมได้สัมผัสมาก็คือ ทุกคนจะคอยช่วยเหลือเพื่อนๆในหัวข้อที่ตัวเองถนัดๆ มีการนัดติวกัน การแบ่งสมุดจดเพื่อทบทวนเนื้อหาการสอบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสังคมและบรรยากาศที่ดีในคณะ ที่ไม่มีการอิจฉาหรือการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน เพื่อนๆทุกคนพร้อมแบ่งปันต่อกันเสมอ

การเรียนทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษ

การได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ผมตัดสินใจมาเรียนที่มหาลัยแห่งนี้ ด้วยความที่ผมเป็นคนเสพสื่อบันเทิงต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว จึงไม่มีปัญหาในการใช้ภาษาอังกฤษสักเท่าไร แต่จากการที่ได้เรียนทุกวัน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ผมรับรู้ได้เลยว่า ทักษะด้านภาษาอังกฤษของผมได้พัฒนาจากก่อนหน้าขึ้นเยอะมาก ทั้งการเขียน การพูด และการฟัง ผมเชื่อว่า ถึงแม้จะเป็นคนที่มีพื้นฐานอังกฤษค่อนข้างน้อยก็ตาม แต่หากได้ใช้มันในทุกวัน ไม่ว่ายังไงก็จะเกิดความชำนาญขึ้น และจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในที่สุด

Join

us

Apply for upcoming semester